ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศหยุดชั่วคราว 90 วัน การเรียกเก็บภาษีศุลกากรบางส่วนจากทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดที่อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 9.52% ปิดที่ 5,456.90 จุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 และสำหรับดัชนีตลาดโดยรวม ถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่เป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ พุ่งขึ้น 2,962.86 จุด หรือ 7.87% ปิดที่ 40,608.45 จุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์สูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020
ดัชนี แนสแดกพุ่งขึ้น 12.16% ปิดที่ 17,124.97 จุด ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2001 และเป็นวันที่ดีที่สุดเป็นอันดับสอง
ทั้งนี้ มีการซื้อขายหุ้นราว 3 หมื่นล้านหุ้น ทำให้วันนี้เป็นวันที่มีการซื้อขายหุ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวอลล์สตรีทด้วย ตามบันทึกย้อนหลังไป 18 ปี ขณะที่ หุ้นที่ได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากความตึงเครียดในสงครามการค้าเป็นตัวนำการฟื้นตัวในช่วงบ่ายวันพุธ โดยแอบเปิ้ล (Apple) และ เอ็นวีเดีย (Nvidia) พุ่งสูงขึ้นมากกว่า 15% และเกือบ 19% ตามลำดับ ส่วนหุ้นวอลมาร์ท ( Walmart) ก็พุ่งสูงขึ้น 9.6% หุ้นของ เทสลา (Tesla) ก็พุ่งขึ้นมากกว่า 22%
อดัม คริซาฟูลลี ผู้ก่อตั้งบริษัท วิทัล โนเลดจ์ กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาจากราคาหุ้นที่ตกต่ำและความรู้สึกที่เปลี่ยนไป การหยุดภาษี 90 วันได้จุดชนวนให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรุนแรง และการเลื่อนการดำเนินการออกไปก็ช่วยขจัดผลกระทบมหาศาลจากตลาดได้อย่างแน่นอน แต่กระนั้น ภาษีศุลกากรจะไม่หายไป อัตราภาษีศุลกากรของจีนตอนนี้อยู่ที่ระดับสามหลัก และใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีก 90 วันเหลังจากการเลื่อนดังกล่่าวสิ้นสุดลง ”
ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการประกาศเลื่อนภาษีออกไป 90 วันนั้น นักลงทุนในตลาดต่างก็วิตกกังวลกับการตอบโต้กันไปมาระหว่างจีนและทรัมป์ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่ สหภาพยุโรปยังได้อนุมัติภาษีศุลกากรชุดแรกต่อสหรัฐ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 15 เมษายนด้วย
โดยความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปิดตัวภาษีศุลกากรเป็นแรงผลักดันให้หุ้นร่วงลงอย่างหนักเป็นเวลา 4 วัน ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปรวมมากกว่า 4,500 จุด ในขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี -500 ร่วงลงไปมากกว่า 12% และ ดัชนีแนสแดก ร่วงลงมากกว่า 13% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการขาดทุนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/international/morning/437041
————————-
#เรื่องเล่าเช้านี้ (MorningNews)
วันที่ 10 เมษายน 2568
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : https://www.tiktok.com/@morningnewsch3